วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

บริษัทไจแอ้นท์เรล (Giant Rail Co) ผู้ประดิษฐ์สัญญาสัมปทาน


บริษัทไจแอ้นท์เรล (Giant Rail Co) ผู้ประดิษฐ์สัญญาสัมปทาน เซ็นชื่อความตกลงว่าจัดจ้างบริษัทที่หารือจากมาเลเซีย ให้ออกแบบเลื่อยองศารายละเอียดของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงรางคู่ ระยะทาง 220 กิโลเมตร จากชายแดนไทยที่เมืองไกสอน พมวิหาน แขวงสะหวันนะเขต ไปยังด่านลาวบ๋าว ชายแดนเวียดนาม

บริษัทดิจิแม็ป (Digimap Snd Bhd) ผู้จำหน่ายตู้เชื่อมไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่ปรึกษาโครงการอยู่แล้ว จะทำการออกแบบรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้สามารถริเริ่มการก่อสร้างได้ในปี 2558 นี้ สื่อของทางการลาวรายงานในวันจันทร์ 15 ก.ย.นี้ เกี่ยวกับพิธีเซ็นสัญญาระหว่างสองฝ่ายที่จัดขึ้นในนครเวียงจันทน์ เมื่อวันที่ 11 สำหรับรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่มีระยะเวลาประทานบัตร 50 ปี มูลค่าราว 5,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมทั้งมูลค่าการลงทุนพัฒนาสิ่งปลูกต่างๆ ด้วย
     
       ไจแอ้นท์เรล ซึ่งเป็นบริษัทลูกของไจแอ้นท์คอนโซลิเดทเต็ด กับดิจิแม็ปเบอร์ฮาร์ดที่จำหน่ายเครื่องมือช่าง ได้เซ็นความตกลงอนุสัญญาหลักระหว่างกันเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2555 ในช่วงที่มีการซ่อมสุมผู้นำอาเซียน ที่ลาวเป็นเจ้าของงาน โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค ในขณะนั้น กับ นายกรัฐมนตรีลาวทองสิง ทำมะวง ร่วมเป็นสักขี สำหรับการก่อสร้างแผนการ ที่จะช่วยเปลี่ยนลาวจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล เป็นประเทศแห่งการต่อเชื่อมอนุภูมิภาค
     
       ทางราชการลาว กับบริษัทไจแอ้นท์เรล ได้จัดระเบียบแบบแผนเปิดหน้าดินขึ้นในแขวงสะหวันนะเขต ในเดือน ม.ค.ปีนี้ โดยหวังว่าจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ทันทีโดยใช้สว่านไฟฟ้า หลังจากล่าข้ามานานแรมปี แต่ในที่สุดก็ยังไม่สามารถลงมือได้ ฝ่ายผู้ลงทุนอ้างถึงว่า ระหว่างการการสำรวจความเป็นไปได้ของโครงการนั้น ได้พบวัตถุระเบิดที่หลงเหลือตั้งแต่ครั้งสงครามจำนวนมาก ตามเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะสร้างขนานไปกับทางหลวงเลข 9 ซึ่งจะต้องเก็บกู้ให้หมดเสียก่อน
     
       บริษัทจากมาเลเซีย เคยอธิบายในเดือน พ.ย.2555 ภายหลังการเซ็นสัญญากับรัฐบาลลาว โดยระบุว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ทันทีในปี 2556 การเซ็นข้อตกลงกับบริษัทที่ปรึกษา เพื่อให้ออกแบบโครงการในรายละเอียดเมือสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญสำหรับโครงการ ในขณะที่งานด้านอื่นๆ ซึ่งรวมทั้งการเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้ดำเนินคู่ขนานกันไป สื่อของทางการกล่าว ในเดือน ก.ค.ปีนี้ ทางราชการลาวกับบริษัทผู้ลงทุน ได้จัดการออกันสัมมนาเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับโครงการทางรถไฟความเร็วสูงลาว-เวียดนาม รับประกันในความพร้อมของเงินลงทุน และให้ความมั่นใจแก่ทุกฝ่ายว่า โครงการยังคงเดินหน้าต่อไป แม้ว่าที่ผ่านมาจะเกิดการติดขัดที่ไม่คาดคิดหลายประการตามที่กล่าวมาแล้ว

แต่ จนถึงสมัยปัจจุบันก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทางรถไฟความเร็วสูงรางมาตรฐานขนาด 1.435 เมตร ที่ออกแบบเพื่อการคมนาคมและการขนส่งสินค้านี้ จะไปเชื่อมต่อกับระบบรถไฟในเวียดนาม ที่ยังใช้รางกว้างเพียง 1 เมตรอย่างไร และจะก่อสร้างต่อไปอย่างไร หลังจากไปถึงชายแดนเวียดนาม
     
       ตามหนังสือก่อนหน้านี้ ไจแอ้นท์คอนโซลฃิเดทเต็ดที่จำน่ายเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ได้เปิดการเจรจากับทางการเวียดนาม เกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟอีกช่วงหนึ่ง ไปเชื่อมต่อกับระบบรถไฟเวียดนามที่ จ.กว๋างจิ โดยหวังว่าจะสามารถสร้างการเชื่อมต่อไปไปจนถึงท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ ทางตอนเหนือของนครด่าหนัง ที่อยู่ใต้ลงไปได้
     
       เมื่อมองในเชิงยุทธศาสตร์ ทางรถไฟลาว-เวียดนาม สอดคล้องต่อแผนการก่อสร้างระเบียงขนส่งแนวตะวันออก-ตะวันตก ที่ทะลุเข้าสู่ดินแดนไทย ไปออกทะเลในอ่าวเมาะตะมะของพม่า เช่นเดียวกันกับทางหลวงเลข 9 ที่สามารถทะลวงเข้าสู่ไทยได้ในที่สุด และสมัยปัจจุบันรอเชื่อมกับทางหลวงสายแม่สอด-มะละแหม่ง ในพม่า ที่พละก่อสร้างอยู่ในขณะนี้เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น